ปริศนาสอนธรรมของหลวงปู่สรวง เป็นมรดกธรรมที่เกิดจากกิจกรรมปริศนา ที่ยังแปลไม่ได้ว่ามีความหมายธรรมะว่าอย่างไร อาทิเช่น สอนธรรมคานไม้หาม, ว่าวหมุนรอบทิศ, ขุดหลุ่มปริศนา, บันได 6 ขั้น, มัดสุ่ม, ตักบาตรปล่องไม้ไผ่ , มัดโอ่ง, โยงเชือก และอื่นๆอีกมากมาย รวมไปถึงปริศนาจากลายลิขิตหลวงปู่สรวง ปริศนาทั้งหมดนี้หลวงปู่สรวง ท่านไม่เคยได้บอกถึงความหมายเอาไว้เลย ซึ่งจะเป็นการดีถ้าหากจะมีผู้รู้มาแก้ไขปริศนาผ่านพุทธพจน์คำสอนของพระพุทธเจ้าให้เราได้ศึกษา ผ่านปริศนาหลวงปู่สรวง ซึ่งไม่ต้องบอกว่าการไขปริศนานั้น จะถูกหรือผิดอย่างไร โดยไม่มีใครมาตัดสินทั้งสิน เพราะปริศนาสมบัติธรรมที่หลวงปู่สรวง ท่านทิ้งเอาไว้ให้นั้น ทุกคนสามารถที่จะแปลและเข้าถึงได้โดยเท่าเทียมกัน ผ่านการแสดงทัศนะได้ เพื่อให้ปรากฎเป็นรูปธรรม ซึ่งจะเข้าใจได้อย่างลึกซึ้งเพียงใดนั้น ก็ย่อมขึ้นอยู่กับสติปัญญาความรู้และภูมิธรรมของบุคคลผู้นั้น

จากการที่ได้ติดตามศึกษาเรื่องราวปริศนาธรรมหลวงปู่สรวงนั้น มีปริศนาหนึ่ง ซึ่งพระอาจารย์เจ้าอาวาสวัดคู่แท่น จ.สุรินทร์ ท่านที่ได้รับการไขความหมายจากหลวงปู่สรวงเอง คือเรื่องราวของเชือกว่าว ครั้นหนึ่ง หลวงปู่สรวง ท่านได้โยนเชือกว่าวให้แล้วพูดว่า "ยัวเตราศีล" ซึ่งมีความหมายว่า "เอาไปศีล" แสดงให้เห็นว่า หลวงปู่สรวง ท่านทิ้งปริศนาเชือก ซึ่งมีนัยเปรียบเปรยถึงเชือกว่าวนั้นก็คือ ศีล นั้นเอง โดยสามารถอธิบายต่อไปอีกได้ว่า ที่หลวงปู่สรวง ท่านเรียกเชือกว่า ศีล นั้นก็เพราะว่า คนที่มีศีลจิตใจก็จะสูงขึ้น เสมือนกับ ว่าวนั้นมีเชือกดึงไว้ว่าวก็ขึ้นสูงไปบนท้องฟ้าได้ ถ้าเชือกขาดว่าวก็ตก ซึ่งเปรียบเทียบว่า ถ้าคนขาดศีลธรรม จิตใจก็ย่อมตกต่ำตามเช่นกัน ซึ่งเป็นปริศนาธรรมที่ความหมายลึกซึ้งยิ่งนัก
ขุนแผนอุ้มไก่ หลวงปู่สรวง